ประกันเช่ารถเครน & ความปลอดภัยที่ต้องมี | คู่มือบริษัทอุตสาหกรรม (อัปเดต 2025)

ประกันเช่ารถเครน & ความปลอดภัยที่ต้องมี (ฉบับบริษัทอุตสาหกรรม)

ประกันเช่ารถเครน และมาตรการ ความปลอดภัยเช่ารถเครน คือเกราะป้องกันความเสี่ยงทั้งด้านชีวิต ทรัพย์สิน และงบประมาณโครงการ บทความนี้สรุป “ประเภทประกันงานยกที่ควรมี” เอกสารความปลอดภัย (Lifting Plan, Method Statement, JSA) มาตรฐานพื้นที่–อุปกรณ์ (เช่น Outrigger Mat) เกณฑ์หยุดงาน และเช็คลิสต์ก่อน–ระหว่าง–หลังยก เพื่อให้ผู้ว่าจ้างและทีมงานตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ พร้อมอ้างอิงมาตรฐานจาก OSHA/HSE และลิงก์อ่านต่อในเว็บไซต์ของเรา

อัปเดตล่าสุด: · ตรวจทานโดย Safety Officer

ประกันเช่ารถเครน และเอกสารความปลอดภัยที่ต้องมี เช่น กรมธรรม์ Lifting Plan และ JSA

ก่อนเริ่มงาน ตรวจกรมธรรม์ + Lifting Plan + ใบอนุญาตบุคลากรครบ


ประกันที่ควรมีเมื่อเช่ารถเครน

เป้าหมายคือ “ลดความเสี่ยงทางการเงินและความรับผิด” ครอบคลุมทั้งทรัพย์สินของลูกค้า บุคคลที่สาม พนักงาน และตัวเครนเอง โดยทั่วไปควรมีอย่างน้อย:

ประเภทประกัน คุ้มครองหลัก ข้อควรเช็ค
ประกันงานยก (Lifting/Hoisting Insurance) ความเสียหายต่อสิ่งของที่ยก/ติดตั้งระหว่างปฏิบัติงาน ทุนประกันสอดคล้องน้ำหนัก–มูลค่า, เงื่อนไขลม/อากาศ, Deductible
ประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Public Liability) บาดเจ็บ/เสียหายของบุคคลที่สาม (Third Party) วงเงินต่อครั้ง/ต่อปี, ข้อยกเว้นพื้นที่เสี่ยงสูง, รวมงานที่สูง/พื้นที่สาธารณะ
ประกันพนักงาน (WC/PA) อุบัติเหตุ/รักษาพยาบาล/ทุพพลภาพของทีมงาน รายชื่อ/จำนวนพนักงานในไซต์, ความคุ้มครองงานที่สูง/งานยก
ประกันเครื่องจักร/ตัวรถ (Machinery/Contractor’s Plant) ตัวเครน/อุปกรณ์ยกเสียหายจากอุบัติเหตุ รุ่น–ปี–ซีเรียล, เงื่อนไขการใช้งาน, ความคุ้มครองขณะขนส่ง

ควรขอ สำเนากรมธรรม์/ใบรับรอง (COI) ระบุชื่อบริษัทผู้ว่าจ้างเป็นผู้เอาประกันร่วม (ถ้าเป็นไปได้) และตรวจ Effective Date ให้ครอบคลุมช่วงงาน

เอกสารความปลอดภัยที่ควรขอจากผู้ให้บริการ

  • Lifting Plan — น้ำหนักรวม (ของ+อุปกรณ์ยก), รัศมี–ความสูง, ตำแหน่งตั้งรถ
  • Method Statement — วิธีการทำงานละเอียด + ขั้นตอนฉุกเฉิน
  • JSA / Risk Assessment — ประเมินความเสี่ยง + มาตรการคุม
  • Load Chart ของรุ่นเครน
  • ใบอนุญาตผู้ขับ/ใบเซ็นรับรอง (มีอัปเดต)
  • บันทึกตรวจสภาพ เครน/อุปกรณ์ยก (สลิง/ตะขอ/บีม)
  • Toolbox Talk / Pre-lift Minutes — บันทึกประชุมก่อนยก
  • Permit to Work (ถ้ามีข้อบังคับในไซต์)
  • Site Layout — แผนผังโซนทำงาน/ห้ามเข้า/เส้นทางออกฉุกเฉิน

อ่านต่อ: Risk Assessment งานที่สูง · คำนวณรัศมีเครน

มาตรฐานพื้นที่–อุปกรณ์หน้างาน (ตั้งแต่ Outrigger ถึงสภาพอากาศ)

Outrigger & พื้นรับน้ำหนัก

  • ใช้ Outrigger Mat หรือแผ่นรองตามสเปกผู้ผลิต รองรับ Ground Bearing Pressure
  • เลี่ยงตั้งใกล้ขอบบ่อ/ฝาท่อ/พื้นที่ดินอ่อน ตรวจแนวราบและระบายน้ำ

โซนทำงาน & การสื่อสาร

  • กั้นโซนห้ามเข้า, ติดป้ายเตือน, มี ผู้ให้สัญญาณมือ คนเดียวสั่ง–คนเดียวรับ
  • กำหนดวิทยุ/สัญญาณมือมาตรฐาน + คำสั่งหยุดฉุกเฉิน

อากาศ/ลม/ทัศนวิสัย

  • กำหนด Wind Limit ตามคู่มือรุ่น + ตรวจความเร็วลมจริง
  • ทัศนวิสัยต่ำ/ฝนฟ้าคะนอง: ให้เลื่อนงานตาม แนวปฏิบัติหยุดงาน

การปูแผ่นรอง Outrigger ให้ได้ระดับและรับน้ำหนักตามสเปก ลดความเสี่ยงพื้นทรุด

Outrigger Mat ตามสเปก + ตรวจแนวราบ ลดความเสี่ยงพื้นทรุด/เอียง



Outrigger Mat ตามสเปก + ตรวจแนวราบ = ลดความเสี่ยงพื้นทรุด/เอียง

เกณฑ์หยุดงานชั่วคราว (ตัวอย่างปรับตามสเปกจริง)

  • ลมเฉลี่ย/กระโชก เกินค่าที่ผู้ผลิตกำหนด
  • ทัศนวิสัยต่ำจน Operator–Signalman มองไม่เห็นกัน
  • พื้น ทรุด/เอียง, ขา Outrigger ไม่มั่นคง, โหลด แกว่งผิดปกติ
  • พบ ความคลาดเคลื่อนน้ำหนัก/รัศมี–ความสูง จากแผนยก

วิธีตัดสินใจ/เตรียมวันสำรอง ดูต่อ: ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีป้องกัน

ทำไม “ประกันเช่ารถเครน” ถึงสำคัญกว่าที่คิด

ประกันที่ถูกประเภทและวงเงินเหมาะสมช่วยปิดความเสี่ยงต้นทุนที่คาดไม่ถึง เช่น ค่าเสียหายต่อสิ่งของที่ยก ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก และค่าเสียหายเครื่องจักร พร้อมทั้งเป็นหลักฐานให้คู่ค้าหรือโรงงานอนุมัติให้เข้าทำงานได้รวดเร็ว

ทีมงานประชุม Toolbox Talk หน้างานก่อนเริ่มยก พร้อมแสดงแผนผังโซนปลอดภัย

เคสจริง: ประชุมก่อนยกและกั้นโซน ลดอุบัติเหตุจากมุมอับและความเข้าใจคลาดเคลื่อน



เคสจริง: ทำ Toolbox Talk + กั้นโซนปลอดภัย ก่อนเริ่มยกทุกครั้ง

เช็คลิสต์ก่อน–ระหว่าง–หลังยก (ใช้งานได้จริง)

ก่อนยก

  • ยืนยัน กรมธรรม์ ครอบคลุมช่วงงาน & ระบุผู้ว่าจ้างร่วม (ถ้าเป็นไปได้)
  • ตรวจเอกสาร: Lifting Plan, Method Statement, JSA/Risk Assessment, Load Chart
  • ตรวจพื้นที่ & Outrigger Mat, แนวราบ, ระบายน้ำ, สิ่งกีดขวางเหนือศีรษะ
  • กำหนดผู้ให้สัญญาณมือ & ช่องสื่อสารเดียว + คำสั่งหยุดฉุกเฉิน

ระหว่างยก

  • ยึดตามแผน, วัดลมตามช่วงเวลา, หยุดหากเกินเกณฑ์/มองไม่เห็นกัน
  • ประกาศเปลี่ยนแปลงผ่านหัวหน้าทีมเท่านั้น

หลังยก

  • ตรวจสภาพอุปกรณ์ยก/Outrigger, เก็บหลักฐานรูป/บันทึกเวลา
  • สรุป Post Job Review เพื่อปรับปรุงครั้งต่อไป

สรุปสั้น ๆ

  • ตั้งต้นด้วย “ประกันเช่ารถเครน” ที่ถูกประเภทและวงเงินเหมาะสม
  • ขอเอกสาร: กรมธรรม์, Lifting Plan, Method Statement, JSA/Risk Assessment, Load Chart
  • ตรวจ Outrigger Mat + พื้นรับน้ำหนัก + โซนห้ามเข้า + การสื่อสารเดียว
  • กำหนดเกณฑ์หยุดงานชัดเจน (ลม/วิสัย/พื้นทรุด/ข้อมูลเปลี่ยน)
  • ทำ Toolbox Talk ก่อนยก + Post Job Review หลังจบงาน

สรุป: เลือกผู้ให้บริการที่ “ประกันเช่ารถเครน” และความปลอดภัยครบ

กุญแจสำคัญคือเอกสารประกันที่ถูกประเภท ครอบคลุมช่วงเวลา และมาตรฐานความปลอดภัยหน้างานที่ปฏิบัติได้จริง ตั้งแต่ Lifting Plan, JSA, Outrigger Mat ไปจนถึงเกณฑ์หยุดงานและการสื่อสารเดียว หากต้องการทีมที่ช่วยตรวจเอกสารและออกแบบความปลอดภัยแบบครบวงจร ติดต่อเราเพื่อเริ่มงานอย่างมั่นใจและปลอดภัย

ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจเอกสารประกันและออกแบบแผนยกให้ปลอดภัย?

โทร 06-1173-3300
แชท LINE

FAQ

ต้องมีประกันอะไรขั้นต่ำสำหรับงานยก?

แนะนำอย่างน้อย: ประกันงานยก, ประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก, ประกันพนักงาน และประกันเครื่องจักร/ตัวรถ

ขอเอกสารอะไรจากผู้ให้บริการได้บ้าง?

Lifting Plan, Method Statement, JSA/Risk Assessment, Load Chart, ใบอนุญาตผู้ขับ, บันทึกตรวจสภาพ

ลมแรงแค่ไหนถึงควรหยุดงาน?

ยึดค่าที่ผู้ผลิตกำหนดสำหรับรุ่นเครน (ดูคู่มือรุ่น) และวัดลมจริงหน้างาน หากเกินเกณฑ์ให้หยุดทันที

Outrigger Mat จำเป็นไหม?

จำเป็นมาก เพื่อกระจายแรงและลดโอกาสพื้นทรุด/เอียง โดยเลือกขนาด–ความหนาตามสเปกและสภาพพื้น



Related Posts